Skip to content
Home » EA Sports กับวันที่ไร้ FIFA

EA Sports กับวันที่ไร้ FIFA

  • by
EA Sports กับวันที่ไร้ FIFA
Spread the love

EA Sports กับวันที่ไร้ FIFA

15 ธันวาคม 1993 คือวันที่เกมฟุตบอลในตำนานอย่าง FIFA International Soccer เปิดตัวให้เกมเมอร์ยุคบุกเบิกได้เล่นกันในเครื่อง Mega Drive พร้อมซูเปอร์สตาร์ชาวอังกฤษอย่างเดวิดแพล็ตต์และกองกลางชาวโปลิชอย่างเพียวตอร์สแวร์ซูสกี้ปรากฎอยู่บนหน้าปกนับแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านรอยยิ้มน้ำตาความโกรธความเศร้าของเกมเมอร์มานานเกือบ 30 ปีจากวันนั้นจนถึงวันนี้กับเกม FIFA 22 ที่ทำเงินให้กับหนึ่งในบริษัทพัฒนาเกมระดับต้น ๆ ของวงการอย่าง Electronic Arts มากถึงปีละหลายหมื่นล้านบาทจากกระเป๋าเงินของผู้เล่นเกือบสิบล้านคน พร้อมมีทัวร์นาเมนต์ e-Sport ที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน

เมื่อปีที่แล้ว FIFA 22 เปิดตัวในไตรมาสที่ 3 พร้อมคะแนนจากผู้เล่นที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่ 2.1 คะแนน (Metacritic) และคำครหาว่าเป็นเกมพนันผ่านการเสี่ยงดวงเปิดแพ็ครวมถึงการวาง “สคริปต์” ให้ผู้เล่นได้อารมณ์เสียกันไปทั่วหลายคนถึงกับออกมาบอกว่า FIFA เป็นเกมที่กำลังจะตายหรือตายไปแล้วพร้อมทั้งออกมาวิพากษ์วิจารณ์ EA เกี่ยวกับการ “ลอกของเก่า” ออกมาขายใหม่ภายใต้สโลแกน “เปลี่ยนแค่เสื้อที่เหลือตามเดิม” แต่ในช่วงเดือนตุลาคมหรือเดือนเดียวหลังจากเปิดตัวก็ปรากฎข่าวชวนตะลึงออกมาให้ได้คอบอลและคอเกมทราบกันว่าทาง EA กำลังพิจารณาไม่ต่อสัญญากับทางสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA ในการใช้ชื่อ FIFA มาตั้งเป็นชื่อซีรีย์เกมนี้อีกต่อไป

โดยในปัจจุบันสัญญาลิขสิทธิ์ระยะ 10 ปีระหว่าง EA กับ FIFA ที่มีมูลค่าถึงปีละ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) จะสิ้นสุดลงหลังจบฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์และก็มีประกาศออกมาจากทาง EA แล้วว่า “FIFA ที่มีไม่มี FIFA” อาจจะกลายเป็นความจริงสำหรับ FIFA 23 โดยทางคุณ Cam Weber ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานฝ่ายบริหารและผู้จัดการทั่วไปของ EA Sports ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าทาง EA กำลังสำรวจความเป็นไปได้สำหรับการเปลี่ยนชื่อใหม่ให้กับซีรีย์เกมฟุตบอลของพวกเขา โดยก็มีการจดทะเบียนบริษัทใหม่ในอังกฤษ 1 แห่งและในสหภาพยุโรปอีก 1 แห่งภายใต้ชื่อ EA Sports F.C.

ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในตอนนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเงิน โดยทาง FIFA ต้องการยกระดับรายได้ที่ EA ต้องจ่ายขึ้นไปเป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) ต่อ 1 วงจรฟุตบอลโลก 4 ปีหมายความว่า EA ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากถึง 66% แถมทั้งสองฝ่ายยังไม่เห็นด้วยในเรื่องของขอบเขตการใช้ลิขสิทธิ์อีกด้วย โดยทาง FIFA อยากให้ EA ใช้ชื่อ FIFA อย่างจำกัดในเกมแต่ EA เองก็ต้องการจะขยายการใช้งานให้ครอบคลุมธุรกิจแขนงอื่น ๆ และกระแสใหม่ ๆ ด้วย

ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์นี้จะสิ้นสุดลงอย่างไรไม่ว่า EA จะใช้ชื่ออะไรเราก็ได้แต่ภาวนาว่าเราจะได้เกมฟุตบอลสนุก ๆ มาเล่นกันเหมือนเช่นเคยและหวังว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะนำพาเเต่เรื่องดี ๆ มาสู่แฟรนไชส์เกมฟุตบอลยอดฮิตตลอดกาล